สูตรขนม: เค้กมะม่วงจัดเต็ม
เต็มคำกับเค้กมะม่วงวิปครีม โดยในสูตรที่เลือกมานี้ เราจะใช้มะม่วงแก้วสุก มีเนื้อนุ่มเหนียว ไม่เละง่าย มีความหอมหวานเป็นเอกลักษณ์ เพื่อรสชาติที่อร่อย แตกต่างอีกแบบ นอกจากนี้ยังเป็นการใช้วัตถุดิบพื้นบ้านที่ราคาไม่สูงมากด้วยค่ะ ส่วนตัวเค้กเป็นการทำแบบเค้กชิฟฟ่อน ด้วยเนื้อที่เนื้อนุ่มเบา ตัวแป้งจะไม่หวานมาก ชึ่งจะเข้ากันดีกับมะม่วงสุก และวิปครีมที่เราใช้เลยค่ะ
ส่วนผสมที่ใช้
ส่วนผสมที่ 1
- แป้งเค้ก 80 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
ส่วนผสมที่ 2
- ไข่แดงเบอร์ (1) 3 ฟอง
- น้ำตาล ทราย 50 กรัม
- น้ำมันรำข้าว 50 กรัม
- นมสด 45 กรัม
- เนื้อมะม่วงปั่น 50 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ส่วนผสมที่ 3
- ไข่ขาวเบอร์ (1) 3 ฟอง
- ครีมทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 45 กรัม
ส่วนผสมของครีม (วิปครีม)
- วิปปิ้งครีม (ประเภทที่ชอบ)
ส่วนผสมชอสมะม่วง
- เนื้อมะม่วงปั่น 50 กรัม
- น้ำตาลทราย 20 กรัม
- ผงเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 40 กรัม
- วิปปิ้งครีมสด 20 กรัม
วิธีเตรียมแป้งเค้ก
จากส่วนผสมที่ 1
ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เกลือรวมกันพักไว้
จากส่วนผสมที่ 2
ตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายให้เข้ากันพอฟู จากนั้นใส่น้ำมันรำข้าว ตามด้วยนมสด เนื้อมะม่วงปั่น และวานิลลา คนให้เข้ากัน แล้วเทลงในแป้งตามส่วนผสมข้อ 1 จากนั้นคนต่อให้เข้ากันจนเนียน และพักไว้
จากส่วนผสมที่ 3
ตีไข่ขาวกับครีมทาร์ทาร์ ด้วยความเร็วปานกลาง พอเป็นฟอง ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป จนตั้งยอดอ่อนปานกลาง
ตักไข่ขาวครึ่งส่วนลงในไข่แดง ค่อย ๆ คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่ไข่ขาวที่เหลือลงไปตะล่อม ๆ อย่างเบามือ แล้วคนด้วยพายยางอีกที เทใส่พิมพ์กลมขนาด 2 ปอนด์ ที่ทาไขมันและรองกระดาษด้านล่างแล้ว (เพื่อกันขนมติดพิมพ์)
เคาะพิมพ์เบาๆ 1 – 2 ครั้ง นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเชลเชียส ใช้ไฟบนล่าง ประมาณ 25 – 30 นาที หรือจนสุก ทดสอบโดยใช้ไม้ปลายแหลมเสียบเข้าไป ถ้าออกมาสะอาดไม่มีเนื้อแป้งชื้น ๆ ติดมา ถือว่าสุกแล้วค่ะ
นำเค้กออกจากเตา เคาะเบา ๆ 2-3 ครั้ง เพื่อเป็นการกันเค้กยุบหรือหดตัว เสร็จแล้วถอดออกจากพิมพ์ทันที พักบนตะแกรงจนเย็น
การทำวิปครีม
วิปครีมจะใช้สำหรับแต่งหน้าเค้ก และแทรกในชั้นเค้ก ทั้งความเนียนสวยงามและ รสชาติที่ลงตัว ในกรณีนี้ขึ้นอยู่ที่เราเลือกใช้ค่ะ ว่าจะใช้วิปปิ้งครีมแบบไหน ซึ่งพอสรุปได้ดังต่อไปนี้
- Dairy: ส่วนผสมของนมแท้ ไม่มีไขมันทราน อร่อย ดีต่อสุขภาพ แต่ตีขึ้นยาก และไม่ทนร้อน
- Semi-Dairy: มีทั้งนมแท้ และไขมันพืชผสมมาด้วย แต่ไม่มาก รสคล้ายแดรี่ แต่ตีง่ายขึ้น อยู่ตัวดีขึ้น
- Non-Dairy: ทำจากไขมันพืช ไม่มีโคลเรสเตอรอล แต่มีไขมันทราน ตีขึ้นง่าย ทนร้อน อยู่ตัวดี (ส่วนใหญ่มักใช้แบบนี้เพราะตีง่าย ทรงสวยนาน)
ในสูตรนี้เราเลือกใช้แบบ Dairy เพราะเน้นรสชาติเป็นหลักค่ะ ทุกคนในครอบครัวชอบมาก ทั้งยังดีต่อสุขภาพด้วย เพราะเป็นครีมแท้ แม้ต้องแลกกับการทำที่ยุ่งยากขึ้น เพราะเมื่อนำมาแต่งเค้ก ตัวครีมจะละลายเร็ว ต้องพยายามควบคุมขั้นตอนขณะทำดี ๆ ค่ะ การเก็บรักษาและการรับประทานก็เช่นกัน ต้องอยู่กับอุณหภูมิที่พอเหมาะ คือ ต้องเก็บในตู้เย็นเป็นหลัก เหมาะกับทานในห้องแอร์ เพราะจะค่อย ๆ ละเลียดทานได้ หากทานในอุณหภูมิที่สูงไป ครีมจะละลายเร็ว และเค้กจะเสียทรงง่าย ทำให้ต้องรีบทาน หรือหากทานตอนละลาย ความอร่อยก็จะลดลงไปด้วยค่ะ
วิธีทำวิปครีม
เทวิปปิ้งครีมลงในอ่างผสม ตีด้วยหัวตีตะกร้อ ใช้ความเร็วปานกลาง จนขึ้นฟูดี ใช้เวลาประมาณ 2 นาที เราก็จะได้วิปครีมที่พร้อมใช้แล้วค่ะ
การทำซอสมะม่วง
ใช้สำหรับราดบนหน้าเค้ก เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับตัวเค้ก และความสวยงาม
วิธีทำซอสมะม่วง
แช่แผ่นเจลาตินในน้ำเปล่าทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที เพื่อให้ละลาย ตรงนี้ทำทิ้งไว้ค่ะ
นำวิปปิ้งครีม ผสมกับเนื้อมะม่วงบด คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว แล้วนำเข้าไมโครเวฟซัก 30 วินาที หรือพอร้อนเพื่อให้ส่วนผสมสมานกันได้ดี นำออกมาแล้วคนต่อ
จากนั้นนำเจลาตินที่เตรียมไว้มาเติม คนให้เข้ากันดี ก็จะได้ซอสมะม่วงที่เป็นเนื้อเดียวกันพร้อมใช้
วิธีนำส่วนผสมมารวมกัน
ทำการหั่นตัวเค้กในแนวนอนให้เป็น 3 ชิ้น (หรือ 3 ชั้น) ควรหั่นด้วยมีดฟันเลื่อยสไลด์ จะทำให้หั่นออกมาไม่ยุ่ยค่ะ จะได้เนื้อเค้กออกมา 3 วง เนียน ๆ
นำวิปครีมไปปาดเป็นชั้นเค้ก วางด้วยชิ้นมะม่วงสุกหั่นตามยาว ปิดทับด้วยวิปครีมอีกที ทำแบบนี้ 2 ชั้นค่ะ
ปิดทับด้านบนด้วยวิปปิ้งครีม นำไปแช่เย็นจนเช็ดตัว
นำมาราดชอสมะม่วงตกแต่งหน้าเค้กให้สวยงาม และตัดเป็นชิ้น ๆ พร้อมเสิร์ฟ
สุดท้ายเราจะได้เค้กมะม่วงที่ได้รสมะม่วงแบบจัดเต็มเลยค่ะ ทานง่าย อร่อยเพลิน ระวังหมดโดยไม่รู้ตัวด้วยนะคะ
พบกับเรื่องราวการทำขนม สูตรขนม หรือสูตรอาหารดี ๆ ที่ทำรับประทานเองได้ทางะเว็บไซต์รวมสูตรขนม ของกินต่าง ๆ ของเรา หรือจะเข้าไปศึกษาสูตรขนม สูตรอาหารอื่น ๆ บนเว็บไซต์ TrueID ทางลิงก์นี้ https://bit.ly/33qu3cA ก็ได้ค่ะ
















