แกงเผ็ดเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมานาน เป็นอาหารไทยที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี สมัยก่อนมีอีกชื่อหนึ่งว่า “แกงแดง” ด้วยเพราะโทนสีของแกง จะออกเป็นสีแดงจากพริกแห้งแดงเป็นหลัก เป็นแกงกะทิที่นิยมอีกเมนูหนึ่งของไทย ฝรั่งจะเรียกแกงชนิดนี้ว่า Red Curry
แกงของไทยนอกจากจะมีรสชาติดี มีกลิ่นหอมโดดเด่นแล้ว มักมีประโยชน์ของสมุนไพรไทยด้วย แกงเผ็ดก็เช่นกัน ทั้งตัวเครื่องแกง และส่วนผสมหลัก ที่มีประโยชน์แฝงอยู่หลากหลายไม่น้อยเลยค่ะ อาทิ พริก และหอมแดงช่วยให้จมูกโล่ง บรรเทาหวัด, ข่า และเม็ดพริกไทย ช่วยเพิ่มการเผาผลาญของร่างกายให้ดีขึ้น เป็นต้น
การทำอาหารของเราในสูตรนี้ จะขาด “พริกแกงเผ็ด” ไปไม่ได้เลย เพราะเป็นหัวใจสำคัญของทั้งรสชาติ และสีสันของแกง หากต้องการความสะดวกสบาย ในส่วนนี้สามารถใช้พริกแกงเผ็ดแบบสำเร็จรูปได้ค่ะ ยิ่งมีเจ้าประจำที่ชอบยิ่งดีเลยค่ะ จะได้รู้รสรู้มือนำมาปรุงต่อได้ลงตัว
การเลือกพริกแกงแต่ละเจ้า แม้จะมีส่วนผสมไม่แตกต่างกันมาก แต่ก็จะมีสัดส่วนที่แตกต่างกัน เผ็ด เค็ม หอม แตกต่างกันไป รวมถึงเคล็ดลับบางอย่างที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละเจ้า ให้ดูเนื้อน้ำพริก สี กลิ่น หากชิมรสได้ ให้เลือกความเผ็ดที่ชอบ รสไม่เค็มเกินไป ตวามหอมของเครื่องที่เด่น
หากต้องการให้ถึงรสจริง ๆ ทำพริกแกงเผ็ดเองเลยค่ะ เพราะจะได้ทั้งความสดใหม่ของเครื่องแกง และรสชาติที่ควบคุมได้ทุกรายละเอียด ภายในบทความนี้เราก็มีสูตรการทำน้ำพริกมาให้ด้วยค่ะ
ส่วนของน้ำพริก
ส่วนผสมสูตรน้ำพริก
- พริกแห้งแดง ประมาณ 115 กรัม
- รากผักชีสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้ปั่นละเอียด 2 ต้น (เฉพาะโคน)
- ข่าปั่นละเอียด 2 ช้อนชา
- เกลือทะเล 2 ช้อนชา
- ลูกผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
- เม็ดพริกไทยขาว 10 เม็ด
- เมล็ดยี่หร่า 3-5 เม็ด
- ผิวมะกรูดสับละเอียด 2 ช้อนชา
- หอมแดงสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 1/4 ถ้วย
- กะปิ 2 ช้อนชา
วิธีทำน้ำพริก
- นำพริกแห้งมาเฉพาะตัวพริก (ไม่เอาก้าน) แล้วกรีดฝักเพื่อนำเม็ดออก จากนั้นตัดพริกเป็นชิ้น เล็ก ๆ แล้วนำไปแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจนนุ่ม
- ใส่ลูกผักชี และเม็ดพริกไทยขาวลงไปโขลกในครกให้ละเอียด ตามด้วยรากผักชี ข่า ตระไคร้ ผิวมะกรูด หอมแดง กระเทียม เกลือทะเล กะปิ และพริกแห้งที่แช่น้ำไว้ในตอนแรกลงไป โขลกให้เข้ากันจนได้เนื้อเนียนละเอียด ประมาณ 5 นาที หากไม่สะดวกในการโขลกสามารถนำส่วนผสมทั้งหมดไปปั่นในเครื่องปั่นให้ละเอียดก็ได้ค่ะ (แต่นำไปโขลกจะได้รสชาติ และกลิ่นที่ดีกว่า)
- เพียงเท่านี้เราก็จะได้น้ำพริกแกงเผ็ด เพื่อนำมาใช้ได้เลย หรือจะเก็บใส่ภาชนะ นำเข้าแช่เย็น เก็บไว้ใช้ต่อในครั้งต่อไป
ส่วนของตัวแกง
ส่วนผสม
- สันคอหมู 400 กรัม
- มะเขือเปราะ 300 กรัม
- มะเขือพวง 120 กรัม
- ใบโหระพา 1 ถ้วย
- ใบมะกรูด 3 ใบ
- พริกแดง 3 เม็ด
- กะทิกล่อง 350 กรัม
- น้ำสะอาด 4 ถ้วย
- พริกแกงเผ็ด 60 กรัม
- พริกป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- เตรียมหั่นเนื้อสันในหมูตามขวางของเส้นเนื้อให้เป็นชิ้นขนาดพอคำ ล้างมะเขือเปราะ และหั่นแช่น้ำเกลือไว้ มะเขือจะได้ไม่ดำ และมีสีสวยน่าทาน พอจะใส่แกงจึงค่อยล้างน้ำเกลือออกอีกที ตามด้วยมะเขือพวง
- โขลกเครื่องแกงเพิ่มเติมโดยมีพริกป่น เกลือ หอมแดง กะปิ และน้ำตาลปี๊บพอละเอียด ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดโขลกพอเข้ากันเตรียมไว้
- แบ่งหัวกะทิเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 นำไปไว้ผัดกับน้ำพริกแกงเผ็ด ผัดจนกะทิแตกมันโดยใช้ไฟอ่อน ใส่เนื้อหมูลงผัดกับน้ำพริก คลุกเคล้าจนหมูเกือบสุก จากนั้นจึงใส่หางกะทิลงไป ส่วนที่ 2 นำมาผสมน้ำ 4 ถ้วยเพื่อใช้เป็นหางกะทิ
- พอเดือดใส่มะเขือพวง ตามด้วยมะเขือเปราะ ลงไปสักพักพอสุก ชิมรส และปรุงรสตามชอบ ใส่กะทิส่วนที่ 3 ที่สงวนไว้ ถ้าหากใส่ตอนแกงใกล้สุกจะทำให้น้ำแกงข้นและมีรสชาติอร่อยขึ้น
- รอให้แกงเดือดอีกที ปิดไฟใส่ใบโหระพา และพริกแดงหั่นเฉียงลงไป ถ้ามีใบมะกรูด 2-3 ใบก็ให้ฉีกใส่ลงไปด้วย การฉีกจะทำให้น้ำมันมะกรูดหอมออกมา
เมื่อเสร็จสิ้นเราก็จะได้แกงเผ็ดหมูที่ครบเครื่องกำลังดีค่ะ
(ขอบคุณข้อมูลเกี่ยวกับสรรพคุณของสมุนไพรจาก sanook.com และ medthai.com)
#ทำขนม #สูตรขนม #กลุ่มขนม
** สินค้าจัดโปรโมชั่นจากลาซาด้า **
https://shop.romsood.com
** สินค้าจัดโปรโมชั่นจากช้อปปี้ **
https://mycollection.shop/bakery
* กดติดตามเพจเฟซบุ๊คของเราที่ https://www.facebook.com/sotastyrecipes/
** 👨👩👧👦 ร่วมโพสร่วมแชร์คอมเม้นต์กับสูตรหลากหลายจากสมาชิก กดเข้ากลุ่มได้ที่นี่ https://www.facebook.com/groups/soodkanom